slide03
slide02
slide01
ทำไมต้องเลือก ผลิตภัณฑ์คลีนดี ?
ทำไมจึงเลือกการสั่งซื้อสินค้ากับ CLEANDEE
เป็นทางออกสำหรับการทำความสะอาดยุคใหม่?
10 เหตุผลหลักของ CLEANDEE
♥♥ ประหยัด
การสั่งซื้อสินค้าผ่านทาง cleandeethai.com เป็นการประหยัดเวลาและกำลังของท่านในการเลือกซื้อสินค้า ประหยัดค่าเดินทางในยุคที่น้ำมันแพง และไม่ต้องเหนื่อยกับการเดินหาของที่ท่านต้องการและเปรียบเทียบราคา
♥♥ ราคาสินค้า
ข้อได้เปรียบของ cleandee ในด้านของราคาขายสินค้าก็คือ การจัดจำหน่ายสินค้าผ่านทางอินเตอร์เน็ตซึ่งเป็นการประหยัดต้นทุนในการดำเนินธุรกิจ ทำให้เราสามารถนำประโยชน์ส่วนนี้กลับคืนสู่ผู้ซื้อได้ โดยการจำหน่ายสินค้าในราคาที่ถูกกว่าหรืออยู่ในระดับที่เทียบเท่ากับราคาขายตามท้องตลาด เพื่อให้ท่านไม่ต้องเสียเวลาในการเปรียบเทียบราคาสินค้าจากหลายๆ ที่ก่อนการตัดสินใจซื้อ
♥♥ การรับประกันสินค้า และบริการหลังการขาย
สินค้าของเรามีการรับประกันตัวสินค้าและมีศูนย์บริการหลังการขายรองรับการเปลี่ยนและซ่อมสินค้าจากผู้ผลิตและผู้นำเข้าสินค้าชั้นนำ
♥♥ ความหลากหลายของสินค้า
cleandee มีความหลากหลายของประเภทและตัวสินค้าในหมวดของอุปกรณ์ทำความสะอาด สินค้าของเราผลิตจากวัตถุดิบที่มีชื่อเสียงและมีความน่าเชื่อถือ ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากผู้ผลิตและผู้นำเข้าสินค้าชั้นนำทั้งในประเทศและต่างประเทศ โดยที่ทางเราจะมีการนำเสนอสินค้าใหม่ๆ มาให้ท่านเลือกสรรอยู่ตลอดเวลา
♥♥ การจัดส่งสินค้า
เราเสนอทางเลือกมากมายในการจัดส่งสินค้าให้ถึงมือท่านอย่างปลอดภัย อาทิ เช่น บริการจัดส่งทั่วประเทศผ่านทางบริษัทขนส่งเอกชนชั้นนำ ซึ่งเป็นที่น่าเชื่อถือด้านการขนส่งที่ระมัดระวังปลอดภัย และรวดเร็ว, ไปรษณีย์ด่วนพิเศษ EMS หรือ พนักงานขนส่งสินค้าในเขตกรุงเทพมหานคร
♥♥ บริการลูกค้า
ทางเราได้เน้นคุณภาพของบุคลากรเพื่อให้บริการที่ดีเลิศแก่ลูกค้าทุกๆ ราย เราสามารถช่วยเหลือท่านในการเลือกซื้อและแนะนำสินค้าที่เหมาะสมกับการใช้งานของท่าน เรามีบริการด้านการชำระเงินที่หลากหลาย ทั้งการชำระเงินด้วยเครดิตการ์ด การโอนเงินผ่านธนาคาร สำหรับลูกค้าทั่วประเทศ และชำระด้วยเงินสดกับพนักงานส่งสินค้าสำหรับลูกค้าในเขตกรุงเทพมหานคร เรามุ่งเน้นที่ความพึงพอใจอย่างสูงสุดของลูกค้า และตั้งใจบริการด้วยความทุ่มเทเพื่อให้สินค้าจัดส่งได้อย่างรวดเร็ว และถึงมือท่านอย่างปลอดภัย
♥♥ ระบบการสั่งซื้อออนไลน์ที่ทันสมัยและปลอดภัย
cleandee ได้ลงทุนในด้านเทคโนโลยีและการพัฒนาเว็บไซต์อย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ลูกค้าได้รับความสะดวกสบายและซื้อสินค้าได้ง่าย ท่านสามารถค้นหาสินค้า เลือกดูรายละเอียดของสินค้า เพื่อรับประกันความปลอดภัยในการสั่งซื้อสินค้าผ่านระบบออนไลน์ เราใช้ SSL (Secure Socket Layer) ตลอดทุกขั้นตอนของการสั่งสินค้า เพื่อป้องกันการละเมิดใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ในการชำระเงินด้วยบัตรเครดิตผ่านระบบออนไลน์ ทาง cleandee ได้ประสานงานกับธนาคาร เพื่อให้บริการการชำระเงินที่ปลอดภัย ส่วนขั้นตอนการตรวจสอบและอนุมัติทั้งหมดจะทำผ่านระบบคอมพิวเตอร์ของธนาคาร โดยที่จะไม่เก็บข้อมูลบัตรเครดิตของท่านไว้ในระบบของเรา
♥♥ ยินดีต้อนรับลูกค้าทุกระดับ
เรามีการจัดตั้งระบบการทำงานเพื่อรองรับลูกค้า cleandee ทุกระดับไม่ว่าจะเป็นลูกค้าปรกติทั่วไป ลูกค้าขายส่ง ลูกค้าในรูปแบบบริษัท หรือ หน่วยงานราชการต่างๆ
♥♥ โปรโมชั่นพิเศษ
ทาง cleandee มีการจัดโปรโมชั่นพิเศษของสินค้าและยังมีการจัดโปรโมชั่นรายการพิเศษสุดๆ อย่างต่อเนื่อง ที่ท่านไม่สามารถหาที่ไหนๆได้
♥♥ ข้อมูลสมาชิกของลูกค้าถูกเก็บไว้ในฐานข้อมูลอย่างปลอดภัย
ข้อมูลของลูกค้าทุกท่านถือเป็นความลับของเรา เราจะไม่มีการจำหน่ายและเผยแพร่ข้อมูลของสมาชิกโดยที่ไม่ได้รับอนุญาติจากเจ้าของข้อมูล ให้แก่บุคคลที่สาม
วิธีขจัดคราบสกปรกต่างๆในห้องน้ำ
***การหมั่นทำความสะอาดห้องน้ำเป็นเรื่องสำคัญที่ไม่ควรมองข้าม
ถ้าห้องน้ำกลายเป็นที่ที่สะสมสิ่งสกปรกก็จะเป็นที่รังเกียจของทุกคน และอาจเป็นแหล่งเพาะเชื้อโรคต่างๆได้ ช่างในบ้านฉบับนี้ขอกล่าวถึงวิธีขจัดคราบสกปรกต่างๆในห้องน้ำด้วยผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดเฉพาะด้าน เพื่อขจัดคราบสบู่ คราบหินปูน คราบสนิม หรือคราบราดำที่ฝังแน่นตามร่องยาแนวกระเบื้องให้หลุดออกไป
♥♥ การขจัดคราบน้ำ คราบสบู่ และคราบไขมัน
บริเวณส่วนแห้งในห้องน้ำมักมีคราบน้ำที่เกิดจากการใช้ห้องหรือตู้อาบน้ำ และคราบสบู่จากการใช้อ่างล้างหน้า เบื้องต้นให้หาผ้าเช็ดเท้าหรือใยสังเคราะห์มารองพื้นบริเวณหน้าห้องอาบน้ำเพื่อแก้ปัญหาเรื่องคราบน้ำก่อน ส่วนการขจัดคราบสบู่และคราบไขมันจากการชำระล้างทั้งหลาย ให้ใช้น้ำยาทำความสะอาดสุขภัณฑ์ โดยเลือกสูตรที่ไม่มีส่วนผสมของผงขัดและสารที่มีฤทธิ์กัดกร่อนรุนแรงนัก แล้วเทน้ำยาเล็กน้อยบนแผ่นฟองน้ำ จากนั้นนำไปเช็ดถูในบริเวณที่ต้องการ
สำหรับห้องอาบน้ำที่กั้นด้วยแผ่นกระจก อะคริลิก หรือพีวีซีที่ดูหมองๆ รวมถึงบริเวณหน้ากระจกที่ไม่ค่อยสดใส ให้ใช้แอลกอฮอล์ผสมน้ำหรือน้ำยาเช็ดกระจกที่มีส่วนผสมของแอมโมเนียมไฮดรอกไซด์ มาขจัดฝุ่นละออง คราบมัน และความขุ่นมัว โดยฉีดพ่นบนพื้นผิวที่สกปรก ทิ้งไว้ประมาณ1-2 นาที แล้วเช็ดออกด้วยผ้าแห้งสะอาด หรือใช้เครื่องมือเช็ดกระจกแบบเดียวกับที่เด็กปั๊มใช้เช็ดกระจกรถยนต์ก็ได้ โดยเช็ดถูไปทางเดียวกัน เพื่อจะได้ไม่ทิ้งรอยคราบหลังการใช้งาน
♥♥ การขจัดคราบหินปูนและคราบสนิม
คราบหินปูนที่เกาะบริเวณขอบหรือมุมกระเบื้อง ให้ใช้เกรียงหรือโลหะแข็งขูด หากคราบหินปูนกิน บริเวณกว้างและขูดออกยาก ให้ใช้น้ำยาทำความสะอาดที่มีส่วนผสมของโซดาไฟหรือคลอรีน เพื่อช่วยละลายคราบต่างๆ แต่เวลาใช้งานต้องระวังเพราะมีฤทธิ์กัดกร่อนรุนแรง อาจทำให้ปูนยาแนวแตกและกะเทาะออกมาได้ ดังนั้นควรทดลองใช้ในพื้นที่เล็กๆก่อน
สำหรับคราบสนิม คราบตะกรัน หรือคราบปัสสาวะในโถสุขภัณฑ์ ให้ผสมน้ำยาขจัดคราบชนิดเข้มข้นกับน้ำสะอาดตามอัตราส่วนที่ระบุไว้ข้างฉลาก จากนั้นใช้แผ่นฟองน้ำจุ่มในน้ำยาให้ชุ่มแล้วนำไปเช็ดถูบริเวณพื้นผิวที่ต้องการ ทิ้งไว้ราว 2-3 นาที แล้วล้างออกด้วยน้ำสะอาด พื้นผิวก็จะกลับมาสวยงามดังเดิม นอกจากนี้น้ำยาขจัดคราบดังกล่าวยังใช้ได้กับวัสดุประเภทโครเมียม สเตนเลส เพื่อคืนความเงางามให้กับสุขภัณฑ์ต่างๆ
♥♥ การขจัดคราบราดำ
กรณีที่เกิดราดำที่พื้นและผนังห้องน้ำ ให้ใช้สเปรย์น้ำยาสูตรฆ่าเชื้อราฉีดลงที่คราบดำตามร่องยาแนวกระเบื้องหรือบริเวณที่มีคราบสกปรก โดยห่างจากพื้นหรือผนังประมาณ 3-5 เซนติเมตร ทิ้งไว้สักครู่ แล้วใช้แปรงขัด จากนั้นล้างออกด้วยน้ำสะอาด คราบเชื้อราและคราบสกปรกก็จะหลุดออก นอกจากนี้สเปรย์ฆ่าเชื้อราในห้องน้ำยังช่วยขจัดคราบเชื้อราและคราบสกปรกต่างๆที่สะสมในท่อน้ำทิ้งได้อีกด้วย
»»»» ข้อควรระวัง
– น้ำยาบางยี่ห้อเขียนไว้ว่าห้ามใช้กับพื้นหรือผนังหินอ่อน หินปูน
– อย่าให้น้ำยาเข้าตา เพราะอาจทำให้ระคายเคือง แสบตา เหยื่อบุตาอักเสบได้
– น้ำยาที่มีส่วนผสมของคลอรีนมีฤทธิ์กัดสีเสื้อผ้า
– ระหว่างการทำความสะอาด ควรทำให้อากาศภายในห้องมีการระบายบ้าง เพราะการสูดดม น้ำยามากๆอาจเป็นอันตรายต่อสุขภาพ
เคล็ดลับการทำความสะอาดอุปกรณ์ในบ้าน
เคล็ดลับทำความสะอาดข้าวของเครื่องใช้ภายในบ้านอย่างง่ายๆ ด้วยสิ่งของและอุปกรณ์ภายในบ้านรอบๆ ตัวเรา
♥♥ วิธีทำความสะอาดหัวก๊อกโครเมียม
ใช้ผ้าหรือฟองน้ำชุบน้ำส้มสายชูพอหมาดนำไปเช็ดหัวก๊อกให้แห้ง จากนั้นขัดด้วยผ้านุ่ม ๆ หรือจะใช้แอลกอฮอล์ ในการเช็คเก็บคราบก็ได้ หากต้องการให้ของใช้ที่เป็นโครเมียมเป็นมันแวววาวในช่วงเวลาเร่งรีบ ให้ใช้ผ้า ชุบน้ำยาปรับผ้านุ่มแล้วเป่าแห้งมาเช็ดบนวัสดุโครเมียมที่แห้งก็ได้
♥♥ ขจัดรอยคราบรอบคอห่านโถส้วม
ซื้อยาทำความสะอาดฟันปลอมมา แล้วหย่อนลงไปในโถส้วม ทิ้งไว้ค้างคืน รุ่งเช้าจึงใช้แปรงขัดให้สะอาดแล้วกดน้ำทิ้ง
♥♥ เคล็ดลับการทำความสะอาดช้อนส้อม
วิธีทำความสะอาดช้อนส้อมที่มีคราบดำติดอยู่ให้ออกไปให้หมด ทำได้โดย เอาเกลือเล็กน้อยผสมน้ำแล้วเติมนมสดลงไป 1 ช้อนโต๊ะ ตั้งไฟให้ร้อนจึงนำช้อนส้อมใส่ลงไปต้มจนเดือด ก็จะทำคราบดำที่ติดอยู่หลุดออกไปได้และเงางาม
♥♥ เคล็ดลับการทำความสะอาดกระทะ
วิธีทำความสะอาดรอยไหม้ที่ติดกระทะให้ออกจนหมดคือ ให้นำกระทะตั้งไฟใส่น้ำลงเล็กน้อยแล้วเอาหัวหอมทุบพอแตก 3-4 หัว ต้มจนเปื่อย จากนั้นจึงนำกระทะไปล้างตามปกติ
♥♥ เคล็ดลับการทำความสะอาดไมโครเวฟ
วิธีขจัดคราบเปื้อนที่เตาไมโครเวฟให้หลุดออกไป คือ ใช้ผงเบกกิ้งโซดาโรยบนฟองน้ำหมาดๆ แล้วนำมาถูตรงรอยเปื้อนที่เตาไมโครเวฟแรงๆ จะทำให้รอยเปื้อนนั้นหลุดออก จากนั้นจึงล้างน้ำแล้วเช็ดด้วยผ้าฝ้ายให้แห้ง
♥♥ เคล็ดลับการทำความสะอาดเสื้อ
วิธีขจัดรอยเปื้อนหมึกในกระเป๋าเสื้อให้ออกไปได้โดยง่าย คือ ใช้น้ำมันใส่ผมหยอดลงไปที่รอยเปื้อน และนำไปซักด้วยผงซักฟอกอีกครั้งจึงจะสะอาด
♥♥ เคล็ดลับการทำความสะอาดตู้เย็น
วิธีดับกลิ่นคาวอาหารในตู้เย็น มีวิธีขจัดกลิ่นง่ายๆ คือนำกากชาที่ชงแล้วมาห่อผ้าผูกให้แน่น แล้วนำไปแช่ทิ้งไว้ในตู้เย็น จนหมดกลิ่นก็นำกากชาออกไปทิ้งได้ เพราะกากชาจะช่วยดูดกลิ่นคาวของอาหารออกไป
♥♥ เคล็ดลับการทำความสะอาดดอกไม้ประดิษฐ์
วิธีขจัดคราบฝุ่นสกปรกที่ติดบนดอกไม้ประดิษฐ์ให้มองดูใหม่ไร้คราบฝุ่น คือ นำดอกไม้ประดิษฐ์มาอังกับไอน้ำเดือดสักครู่ จึงนำไปล้างด้วยน้ำสะอาดอีกครั้งจนมองดูใหม่สะอาดหมดจดทีเดียว
♥♥ เคล็ดลับการทำความสะอาดตู้กับข้าว
วิธีขจัดกลิ่นเหม็นอับในตู้กับข้าวให้หอมสดชื่น คือ ใช้ปูนขาวเล็กน้อยใส่ชามใบย่อม ไปวางในมุมใดมุมหนึ่งในตู้กับข้าว ทึ้งไว้ประมาน 3-4 วัน กลิ่นอับชื้นก็จะค่อยจางหายไป
♥♥ เคล็ดลับการทำความสะอาดเขียง
วิธีทำความสะอาดเขียงไม้ที่เปรอะเปื้อน เพียงใช้เกลือป่นขัดแรงๆ แล้วล้างออกด้วยน้ำสะอาด กลิ่นเหม็นคาวจากความสกปรกจะหมดไป
♥♥ เคล็ดลับการทำความสะอาดโทรศัพท์
วิธีทำความสะอาดรอยเปื้อนบนโทรศัพท์ที่มีสีขาว มีวิธีง่ายๆ คือ ใช้น้ำยาล้างเล็บเช็ดถูให้ทั่วคราบฝุ่นและรอยเปื้อนต่างๆ ก็จะจางหายไป
♥♥ เคล็ดลับการทำความสะอาดเตารีด
วิธีทำความสะอาดเตารีดที่มีรอยไหม้ คือ หาใบตองที่ห่อขนมมา แล้วเสียบเตารีดให้ร้อนจัด นำไปรีดบนใบตองที่เตรียมไว้ ถูไปถูมาจนใบตองเกือบใหม้เป็นสีน้ำตาลแก่ ใบตองจะทำให้รอยไหม้หลุดไปได้ง่าย และทำให้เตารีดลื่นขึ้นอีก
♥♥ เคล็ดลับการทำความสะอาดถุงเท้า
วิธีทำความสะอาด และรักษาคุณภาพของถุงเท้าไม่ให้เป็นขุยดูไม่น่ามองคือ ก่อนซักควรใช้น้ำส้มสายชู 1 ถ้วย ใส่ลงไปในผงซักฟอก แล้วแช่ไว้สัก 10 นาทีก่อนซักจะทำให้ถุงเท้าอ่อนนุ่ม มองดูใหม่ไม่มีขน และไม่เป็นขุย สะอาดหมดจด
♥♥ เคล็ดลับการการทำความสะอาดรองเท้า
วิธีทำความสะอาดรอยเปื้อนบนรองเท้าหนังสีดำ ขจัดได้โดยใช้น้ำยาทำความสะอาดห้องน้ำผสมน้ำ แล้วทาทิ้งไว้สักครู่ นำมาเช็ดด้วยผ้านุ่มๆ แล้วขัดด้วยน้ำยาขัดรองเท้าอีกที รองเท้าที่เปื้อนก็จะมองดูใหม่และเป็นเงาทีเดียว
เคล็ดลับการดูแลรักษาพื้นไม่ยากอย่างที่คิด!!
เชื่อเหลือเกินว่าปัญหาเรื่องการดูแลรักษาและทำความสะอาดพื้นบ้าน คงจะเคยสร้างความปวดหัวให้แก่บรรดาเจ้าของบ้านไม่น้อยเลย
เพราะเนื่องจากพื้นบ้านในแต่ละห้อง รวมไปถึงบริเวณต่างๆ ในตัวบ้านจะมีลักษณะการใช้สอยที่แตกต่างกัน นั่นจึงทำให้วิธีการดูแลพื้นผิวแต่ละชนิดไม่เหมือนกันอีกด้วย
เมื่อเป็นเช่นนี้แล้ว การศึกษาถึงวิธีการดูแลและทำความสะอาดพื้นผิวแต่ละชนิด น่าจะสามารถช่วยให้คุณประหยัดเวลาในการทำความสะอาด แถมยังช่วยรักษาพื้นบ้านของคุณให้มีอายุการใช้งานที่มากขึ้น อีกทั้งยังคงความสวยงามคู่บ้านไปได้อีกนาน…
*** เราลองมาดูกันว่าพื้นบ้านชนิดต่างๆ นั้นดูแลรักษาอย่างไรจึงจะเหมาะสมมากที่สุด
♥♥ พื้นไวนิล
พื้นไวนิลควรทำความสะอาดด้วยไม้ถูพื้นหรือไม้กวาด จากนั้นใช้พรมหรือฟองน้ำสำหรับถูพื้นชุบน้ำหมาดๆ เช็ดถูเป็นประจำ การเคลือบผิวไวนิลด้วยน้ำยาเคลือบผิวหรือขี้ผึ้งอย่างสม่ำเสมอจนมากเกินไปนั้น จะทำให้เกิดการจับตัวเป็นคราบหนา ซึ่งอาจส่งผลให้พื้นไวนิลดูหม่นหมองและเกิดริ้วรอยเร็วกว่าเวลาอันควรได้ ดังนั้นการลงขี้ผึ้งซ้ำ จึงควรทำเฉพาะพื้นที่บริเวณที่ใช้งานหนักเท่านั้น
♥♥ พื้นไม้จริง
พื้นไม้จริงนอกจากจะสวยงามเป็นที่นิยมแล้ว ยังให้ความรู้สึกเป็นธรรมชาติและเหมาะกับบ้านในเขตร้อนชื้นมากที่สุด แต่มีราคาแพง เพราะในปัจจุบันหาไม้ได้ยากขึ้น จึงต้องได้รับการดูแลเป็นอย่างดี เพราะจะยิ่งเพิ่มคุณค่าในตัวมันเองอีกด้วยการทำความสะอาดพื้นไม้ควรเริ่มโดยใช้ไม้ถูพื้นปัดฝุ่น จากนั้นจึงเช็ดด้วยพรมถูพื้นชุบน้ำผสมน้ำยาทำความสะอาดแบบเจือจางแล้วเช็ดให้แห้งโดยเร็ว เราสามารถดูแลผิวไม้ได้โดยการเคลือบด้วยน้ำยาเคลือบผิวไม้ชนิดถาวร ซึ่งจะช่วยป้องกันผิวไม้จากหยดน้ำและคราบสกปรกต่างๆ แถมยังทำความสะอาดได้ง่ายอีกด้วย นอกจากนี้หากคุณพบว่าเคลือบผิวมีการหลุดลอกออกตามกาลเวลา การลงขี้ผึ้งเคลือบผิวก็สามารถทำให้พื้นไม้ของคุณกลับมาแวววาวสวยงามได้อีกครั้ง
♥♥ พื้นไม้ลามิเนต
สำหรับไม้ลามิเนตนี้ไม่ใช่ไม้จริง 100% แต่เป็นไม้สำเร็จรูปที่ผลิตขึ้นมาด้วยวิธีทางวิทยาศาสตร์ โดยยังคงมีพื้นฐานที่มีไม้เป็นส่วนประกอบ
วิธีการดูแลรักษาพื้นไม้ลามิเนตนั้นง่ายมาก เพียงใช้ผ้าสะอาดชุบน้ำที่ผสมน้ำยาทำความสะอาดเพียงเล็กน้อย ทำความสะอาดเพียงสัปดาห์ละครั้ง แต่หากพื้นมีรอยเปื้อนสารเคมี เช่น น้ำยาล้างเล็บ ก็ใช้ผ้าสะอาดชุบน้ำมันสน หรือทินเนอร์เช็ดรอยเปื้อนนั้นออก จากนั้นค่อยใช้ผ้าชุบน้ำยาทำความสะอาดเช็ดอีกครั้ง หากเกิดรอยไหม้จากบุหรี่ก็ให้ทำความสะอาดวิธีเดียวกับพื้นที่มีรอยเปื้อนสารเคมี เพราะรอยคราบที่เกิดไม่ใช่รอยเผาไหม้ แต่เป็นคราบนิโคติน ซึ่งสามารถเช็ดออก แต่ถ้าเผลอทำน้ำหกใส่พื้น สิ่งแรกที่ควรทำคือ รีบเช็ดน้ำให้แห้งทันที เพราะถ้าทิ้งไว้นานน้ำอาจซึมเข้าที่รอยต่อระหว่างแผ่นทำให้เกิดความเสียหายได้ และไม่ควรปล่อยให้น้ำท่วมพื้นไม้เป็นเวลานาน ขณะเดียวกัน หากมีการเคลื่อนย้ายหรือเลื่อนเฟอร์นิเจอร์ที่มีขาหรือฐานเป็นเหล็กแหลมคม ควรหาผ้ารองฐานก่อนเลื่อน เพื่อไม่ให้เกิดรอยขีดข่วน แต่สำหรับการใส่รองเท้าเดินบนไม้ลามิเนตนั้นไม่ต้องห่วง เพราะไม่สามารถทำให้พื้นเป็นรอยขีดข่วนหรือเสียหายแต่อย่างใด
พื้นไม้ลามิเนตต้องการการดูแลรักษาน้อยมาก เนื่องจากการออกแบบสำหรับการใช้งานที่เหมาะสมกับที่อยู่อาศัยโดยเฉพาะ จึงหมดปัญหาเรื่องการเก็บฝุ่นเหมือนพื้นกระเบื้อง ทำให้บรรยากาศของการพักอาศัยดีขึ้นไปด้วย
♥♥ พื้นกระเบื้องเซรามิกและกระเบื้องโมเสก
ถือเป็นวัสดุที่มีรูปลักษณ์ดี มีสีสัน ผิวสัมผัส และมีลวดลายให้เลือกมากมาย มีความแข็งแรงทนทาน เหมาะสำหรับครัวที่ใช้งานหนัก และมีโครงสร้างแบบอิฐ เพื่อให้รองรับน้ำหนักได้ดี ถ้าแผ่นไหนแตกก็สามารถซ่อมเฉพาะแผ่นนั้นได้
สำหรับการดูแลรักษา ควรดูแลระหว่างรอยต่อเป็นพิเศษ
ส่วนการทำความสะอาด ให้ใช้แปรงขนอ่อนชุบน้ำสบู่ หรือผงซักฟอกขัด ถ้ามีเชื้อราควรทำความสะอาดด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อโรคแล้วล้างออกด้วยน้ำ
♥♥ พื้นคอนกรีต
พื้นคอนกรีตคือ พื้นที่ก่ออิฐ เทปูน ปูหินธรรมชาติ และพื้นหินขัดนั้น สามารถดูแลได้โดยการใช้ไม้ถูพื้นเช็ดทำความสะอาดเดือนละครั้ง แต่ถ้าเป็นพื้นที่ผ่านการใช้งานและขาดการดูแลรักษามานาน ควรใช้น้ำยาทำความสะอาดแบบเข้มข้นขจัดคราบสกปรกแล้วค่อยลงน้ำยาสำหรับเคลือบผิวคอนกรีต …เพียงเท่านี้จะช่วยลดการสึกกร่อนของพื้นผิวได้เป็นอย่างดี
♥♥ พื้นหินขัด
พื้นหินขัด หรือเทอร์ราซโซ (Terrazzo) เป็นวัสดุผสมระหว่างหินเกล็ด ปูนซีเมนต์ขาว สีผสมซีเมนต์ และใช้เส้นทองเหลืองแบ่งลาย ควรทำความสะอาดด้วยน้ำสะอาดทุกวัน และลงน้ำมันเคลือบผิวเดือนละครั้ง เพื่อป้องกันไม่ให้คราบสกปรกฝังแน่น ที่สำคัญควรเลี่ยงน้ำยาทำความสะอาดที่มีฤทธิ์เป็นกรด เพราะจะทำให้ผิวหน้าเสียหายได้ ควรใช้เหล็กขัดเงากับน้ำสบู่ก็พอ หากผิวหน้าเกิดการชำรุดมาก ควรให้ช่างทำการขัดลอกผิวหน้าเดิมออก และทำการเคลือบผิวใหม่ให้ เพียงเท่านี้เราก็จะได้พื้นหินขัดที่สวยงามดูเหมือนใหม่เลยทีเดียว
♥♥ พื้นหินอ่อน
หินอ่อนเป็นหินชนิดที่มีเนื้อไม่แข็งนัก จึงเกิดรอยขูดขีดได้ง่ายโดยเฉพาะหากมีเศษทราย หรือหินมาเสียดสี เช่น ทรายที่มากับรองเท้า หรือที่แทรกตัวอยู่ตามซอกขาโต๊ะ ขาเก้าอี้
การทำความสะอาดก็ต้องยกเฟอร์นิเจอร์ขึ้นทำการปัดกวาดเช็ดถูเหมือนวัสดุอื่นๆ เมื่อหมดฝุ่นแล้ว จากนั้นก็ให้ใช้แวกซ์ถูพื้นพร้อมเครื่องขัดไฟฟ้าที่จะช่วยให้พื้นเกิดความเงางาม แต่ปัญหาคือ หลังจากขัดเรียบร้อยพื้นมักจะเหนียวเพราะแวกซ์ไม่ซึมลงสู่เนื้อหิน
อีกวิธีหนึ่งคือ ให้ใช้น้ำมันก๊าดชุบผ้าหมาดๆ ถูบางๆ ให้ทั่วผิวหน้าหินอ่อน แล้วเช็ดขัดด้วยผ้าธรรมดาอีกครั้ง จะช่วยให้พื้นหินอ่อนเป็นเงางามได้เช่นกันและไม่เหนียวติดเท้า แต่ไอระเหยจากน้ำมันก๊าดอาจเป็นอันตรายได้ เพราะฉะนั้นควรหาผ้าปิดจมูกในระหว่างทำการขัดพื้น
♥♥ พื้นหินแกรนิต
สำหรับการดูแลรักษาพื้นผิวของหินแกรนิตคือ การเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดและขัดเงา ซึ่งผลิตภัณฑ์ที่ไม่ควรใช้อย่างมากกับการทำความสะอาดหินแกรนิตคือ ผงซักฟอก หรือน้ำยาขัดห้องน้ำ ตลอดจนน้ำยาทำความสะอาดที่มีฤทธิ์เป็นกรด รวมทั้งน้ำมันก๊าดหรือน้ำมันมะกอก เพราะจะทำให้ผิวของหินด้านหมดสภาพความเงา
ส่วนปัญหาของคราบสกปรกที่เกิดจากสนิมเหล็ก ยางไม้ น้ำปูน ฯลฯ ที่อาจเกิดจากการใช้งาน ก็ควรใช้ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดเฉพาะเพื่อใช้ในการขจัดคราบสกปรกดังกล่าว ไม่ให้ทิ้งร่องรอยไว้บนพื้นหิน หลังจากการใช้ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดแล้ว ควรใช้น้ำยาขัดเงาเป็นแวกซ์ชนิดน้ำ (Liquid Wax)
และสิ่งที่สำคัญที่สุดของการดูแลรักษาพื้นหินแกรนิตก็คือ หมั่นดูแลทำความสะอาด โดยเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่ค้นคว้ามาสำหรับหินแกรนิตโดยเฉพาะ ไม่ควรเลือกผลิตภัณฑ์สารพัดประโยชน์ตามคำโฆษณาชวนเชื่อ เพราะจะก่อให้เกิดปัญหาต่อความสวยงามของพื้นหินแกรนิตของท่าน นอกจากนี้ยังเป็นการบั่นทอนอายุและความคงทนของพื้นหินอีกด้วย
♥♥ พื้นพรม
เมื่อเอ่ยถึงวัสดุปูพื้นยอดนิยมของคนมีอันจะกิน (รึเปล่า?) อย่างพรม นั่นดูจะทำให้รู้สึกเป็นเรื่องของความหรูหราฟู่ฟ่า สวยงามนุ่มนวล และที่สำคัญราคาแพงหูฉี่ พรมเป็นวัสดุปูพื้นที่มีอายุการใช้งานสั้น (มักใช้ในกรณีที่ต้องการเปลี่ยนบรรยากาศของห้องหรือบริเวณที่ปูพรมบ่อยๆ) สกปรกก็ง่าย แถมยังติดไฟอีกต่างหาก
การดูแลรักษาและทำความสะอาดจึงต้องเป็นไปอย่างพิถีพิถัน วิธีดูแลรักษาพรมที่ปูพื้น เริ่มต้นด้วยการทำความสะอาดด้วยการดูดฝุ่นอย่างสม่ำเสมอ และในการกำจัดกลิ่นพรม ก็จะต้องใช้ผงเบกกิงโซดา (Baking Soda) โรยให้ทั่วพื้นพรม แล้วทิ้งไว้ประมาณ 15 นาที จึงทำการดูดฝุ่น จะทำให้พรมปลอดจากกลิ่นได้
ห้ามใช้ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดที่มีฤทธิ์เป็นด่าง (ผลิตภัณฑ์ซักฟอกบางยี่ห้อ) กับพรมขนสัตว์ เพราะอาจจะทำให้เส้นใยเสียหายและสีย้อมซีดจางลง
♥♥ พื้นเสื่อน้ำมันและกระเบื้องยาง
ไม่ควรใช้ผลิตภัณฑ์แอมโมเนียและน้ำยาขัดพื้นกับเสื่อน้ำมันและกระเบื้องยาง เพราะจะทำให้พื้นผิวเสื่อด้าน ควรใช้ไม้ถูพื้นกับน้ำและผงซักฟอกแล้วล้างออก
เมื่อเกิดคราบสกปรกจากอาหารหรืออะไรก็ตามแต่ ให้ซับหรือตักรอยเปื้อนนั้นออกในทันทีที่ทำได้ เพื่อไม่ให้กลายเป็นคราบฝังแน่น แต่หากทำไม่ทัน ลองขจัดรอยเปื้อนโดยใช้ผ้าไนลอนเนื้อละเอียดกับน้ำยาซักฟอกเข้มข้น หรือน้ำยาทำความสะอาดอเนกประสงค์เช็ดออกในส่วนของรอยขูดขีด ลองจัดการด้วยยางลบดินสอ หรือเช็ดด้วยน้ำยาล้างจานเข้มข้น แล้วเช็ดออกด้วยผ้าหมาด
♥♥ พื้นที่ปูด้วยวัสดุต่างๆ
การดูแลพื้นกระเบื้อง พื้นปูด้วยอิฐ รวมทั้งพื้นเซรามิกดินเผา หรือพื้นตารางสี่เหลี่ยมทั่วๆ ไป มีหลักง่ายๆ คือ อย่าพยายามเปลี่ยนแปลงธรรมชาติของวัสดุนั้นๆ
ยกตัวอย่างเช่น ถ้าคุณใช้หินเนื้อหยาบปูพื้น ถึงจะพยายามใช้น้ำยาขัดเงาเท่าไรก็คงไม่สามารถทำให้พื้นหินนั้นเงางามขึ้นมาได้ ในทางตรงกันข้าม สำหรับพื้นผิวที่มีความเงางามในตัวอยู่แล้ว การใช้ขี้ผึ้งเพื่อเคลือบให้เงานั้น นอกจากจะไม่ได้ผลแล้ว ยังทำให้พื้นผิวยิ่งหมองลงไปอีก
สำหรับพื้นกระเบื้องนั้นควรหลีกเลี่ยงน้ำยาทำความสะอาด เพราะสารเคมีตกค้างในน้ำยาจะทำให้ผิวกระเบื้องดูหมองและเป็นรอยเปื้อนได้ง่าย เราจึงควรใช้น้ำผสมกับน้ำส้มสายชูเล็กน้อยในการทำความสะอาด เพียงเท่านี้คราบสกปรกต่างๆ ก็จะหลุดออกโดยง่าย
ในท้ายที่สุดแล้ว นอกเหนือไปจากการดูแลรักษาและทำความสะอาดพื้นบ้านประเภทต่างๆ แล้ว การให้ช่างผู้ชำนาญมาบำรุงรักษาพื้นบ้านของเราครั้งใหญ่อย่างน้อยปีละ 1-2 หน นอกจากจะทำให้พื้นบ้านของเราสวยงามอยู่เสมอแล้ว ยังประหยัดเงินในการซ่อมแซมพื้นบ้านใหม่อีกด้วย
ทั้งหมดนี้คือวิธีการง่ายๆ ในการดูแลรักษาพื้นต่างๆ ภายในบ้าน ที่คุณก็สามารถทำเองได้…ไม่ยาก
เคล็ดไม่ลับเรื่อง‘ซักผ้า’และขจัดคราบบนเสื้อผ้า
วันนี้ คลีนดี ผู้นำด้าน ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดและ อุปกรณ์ทำความสะอาดนำเรื่องราวน่ารู้ ของการ ซักผ้า มาฝาก
♥♥ เสื้อผ้าสีขาวที่เริ่มจะกลายเป็นสีเหลือง สามารถแก้ไขได้โดยใช้เปลือกไข่ป่นละเอียด ใส่ลงไปในอ่างแช่ผ้า ทิ้งไว้สักครู่ แล้วจึงซัก
♥♥ เสื้อผ้าที่เลอะคราบครีม เนย น้ำมัน ขจัดคราบโดยนำแป้งที่ใช้สำหรับทาตัวมาโรย ใช้กระดาษทิชชู หรือกระดาษบางอื่นๆ วางทับ นำเตารีดที่มีความร้อนพอสมควร ทับบนกระดาษ จนแป้งดูดคราบออกจนหมด แล้วจึงนำไปซัก
♥♥ เสื้อผ้าที่เปื้อนคราบเลือด ขจัดคราบโดยนำนมข้นทาทันที ทิ้งไว้สักครู่แล้วนำไปขยี้น้ำออก
♥♥ เสื้อผ้าที่เปื้อนคราบเลือดจางๆ ขจัดคราบโดยใช้เบคกิ้งโซดาผสมน้ำสักเล็กน้อย จนแป้งข้นๆ ถูเบาๆ เมื่อแห้งจึงปัดฝุ่นออก
♥♥ เสื้อผ้าที่เปื้อนคราบเลือดฝังแน่น ขจัดคราบโดยใช้ฟองน้ำจุ่มน้ำเย็น ที่ผสมเกลือจนชุ่ม ถูเบาๆ จนรอยค่อยๆ จางลง แล้วใช้น้ำเปล่าถูอีกครั้ง สุดท้ายใช้ทิชชูซับน้ำให้แห้ง
♥♥ เสื้อผ้าที่เปื้อนคราบกาแฟ ขจัดคราบโดยใช้แป้งข้าวเจ้าถู แล้วซักได้ตามปกติ
♥♥ เสื้อผ้าที่เปื้อนคราบชอกโกแล็ต ขจัดคราบโดยรีบนำไปแช่น้ำอุ่นทันทีที่เปื้อน อาจใช้น้ำยาขจัดคราบฝังแน่น ช่วยด้วย จากนั้นนำไปซักแห้ง
♥♥ เสื้อผ้าที่เลอะคราบน้ำตาเทียน ขจัดคราบโดยใช้ก้อนน้ำแข็งขูดเกล็ดเทียนออกให้มากที่สุด จากนั้นจึงใช้กระดาษประกบบริเวณที่เปื้อนทั้ง 2 ด้าน แล้วใช้เตารีดอุ่นๆ รีดทับจนน้ำตาเทียนซึมออกมาติดกับกระดาษ
♥♥ เสื้อผ้าที่เลอะโคลน ขจัดคราบโดยปล่อยให้โคลนแห้ง ใช้แปรงปัดออก ซักด้วยน้ำเย็นหลายๆ ครั้ง จนไม่มีน้ำโคลนออกมา จึงซักด้วยผงซักฟอก
♥♥ เสื้อผ้าที่เปื้อนคราบน้ำชา ขจัดคราบโดยรีบเทน้ำเดือดลงบนรอยเปื้อนบนผ้าที่ยังเป็นรอยใหม่อยู่จนสีจางลงแล้ว รีบนำไปซักทันทีให้ซักในน้ำอุ่นกับสบู่ ถ้ายังไม่ออก ให้ใช้น้ำยาฟอกขาวเช็ด แล้วจึงซัก
♥♥ เสื้อผ้าที่เปื้อนคราบน้ำผลไม้ น้ำมันพืช ขจัดคราบโดยให้ขึงผ้าที่เปื้อนบนปากถัง เทน้ำเดือดลงตรงรอยเปื้อน แล้วจึงซัก
♥♥ เสื้อผ้าที่เลอะน้ำมันขัดเงา ขจัดคราบโดยใช้ฟองน้ำชุบทินเนอร์ทาบริเวณที่เปื้อนในขณะที่ยังเปียกอยู่ ใช้น้ำยาซักผ้า ขยี้ตรงรอยเปื้อนทันที นำมาแช่ในน้ำอุ่น แล้วรีบซักทันที
♥♥ เสื้อผ้าที่เลอะคราบน้ำมันดิบ ขจัดคราบโดยขูดน้ำมันดิบที่ติดอยู่ออกด้วยมีดที่ไม่คม แล้วถูด้วยน้ำมันสน หรือน้ำมันก๊าดหรือน้ำมันเบนซิน (ห้ามใช้น้ำเด็ดขาด)
♥♥ เสื้อผ้าที่ขึ้นราเล็กน้อย ขจัดคราบโดยรีบนำผ้าที่ขึ้นราใหม่ๆ ซักในน้ำสบู่ร้อนๆ ให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ / ให้บีบมะนาวลงไป แล้วแช่ผ้าไว้ในผงซักฟอกสักครู่ จึงซักผ้าตามปกติ
♥♥ เสื้อผ้าที่เปื้อนรอยสนิม ขจัดคราบโดยนำผ้ามาชุบน้ำให้เปียกก่อน บีบน้ำมะนาวลงไปบนรอยเปื้อน ทิ้งไว้สักครู่ แล้วจึงนำไปซักตามปกติ
♥♥ เสื้อผ้าที่เลอะคราบเบียร์ ขจัดคราบโดยซักในน้ำเย็นทันที หรือใช้แปรงจุ่มน้ำเย็น แปรงตรงรอยเปื้อนทันที
♥♥ เสื้อที่เลอะคราบน้ำมันรถ (น้ำมันเครื่อง) ขจัดคราบโดยใช้มะนาวถูบริเวณที่เปื้อน จนรอยเปื้อนจางลงแล้วจึงนำไปซัก
♥♥ เสื้อผ้าที่เปื้อนคราบน้ำส้มสายชู ขจัดคราบโดยผสมแอมโมเนีย 1 ช้อนชา ในน้ำ 2 ถ้วย (ครึ่งลิตร) แล้วแช่ 2-3 นาที ล้างออกแล้วซักตามปกติ
♥♥ เสื้อผ้าที่เลอะคราบน้ำหมาก น้ำหมึก ขจัดคราบโดยก่อนซักให้นำเกลือป่นโรยตรงรอยเปื้อน แล้วบีบน้ำมะนาว ลงไปให้ชุ่ม ผึ่งแดดไว้ครึ่งวัน จึงค่อยนำไปซัก
♥♥ เสื้อผ้าที่เลอะกาว ขจัดคราบได้โดย ใช้น้ำส้มสายชูเช็ดที่รอยเปื้อน นำมาแช่ในน้ำเย็น แล้วซักตามปกติ
♥♥ เสื้อผ้าที่เลอะขี้ผึ้ง ขจัดคราบโดยการวางกระดาษซับบนรอยเปื้อนแล้วกดด้วยเตารีดที่ร้อน เปลี่ยนกระดาษจนกระทั่งไขทั้งหมดถูกดูดซับไปหมด ถ้าเป็นผ้าที่บาง หรือผ้าไหมให้ใช้กระดาษทิชชู และเตารีดที่เย็นกว่า
♥♥ เสื้อผ้าที่เลอะไข่ ขจัดคราบได้โดยให้ผสมน้ำยาซักผ้ากับน้ำอุ่นซัก
♥♥ เสื้อผ้าที่เลอะยางกล้วย ขจัดคราบโดยใช้มะนาวที่ฝานเป็นชิ้นบางๆ ถูตรงรอยเปื้อน ที่เป็นคราบดำ แล้วรีบนำมาซักทันที
♥♥ เสื้อผ้าที่เลอะยาทาเล็บ ขจัดคราบโดยซับที่รอยเปื้อนด้วยน้ำยาล้างเล็บ และเช็ดด้วยผ้าที่สะอาด จนกระทั่งรอยเปื้อนจางลง (ควรลองหยดน้ำยาล้างเล็บลงผ้าก่อน) เสื้อผ้าที่เลอะยาแดงขจัดคราบโดยเช็ดรอยเปื้อนด้วยแอมโมเนีย หรือซักด้วยน้ำส้มสายชูผสมน้ำ
♥♥ เสื้อผ้าที่เลอะมัสตาร์ด ขจัดคราบโดยใช้น้ำส้มสายชูถู แล้วรีบนำไปซัก
♥♥ เสื้อผ้าที่เลอะคราบปัสสาวะ ให้ซับที่รอยเปื้อน ด้วยแอมโมเนียเจือจาง หรือเบคกิ้งโซดา แล้วล้างออกด้วยน้ำอุ่นแล้วซักได้ตามปกติ
♥♥ เสื้อผ้าที่เลอะคราบเหงื่อ มี 3 วิธี
1.ขจัดได้โดยซักด้วยน้ำที่ผสมน้ำส้มสายชูเล็กน้อย หรือน้ำมะนาว
2.แช่ผ้าไว้ในน้ำยาซักผ้าที่ทำให้เจือจางในน้ำจากนั้นซักได้ตามปกติ
3.ละลายแอสไพริน 2 เม็ดลงในน้ำ แล้วแช่ผ้าไว้สักครู่ จึงซักตามปกติ
♥♥ เสื้อผ้าที่เลอะหมึกแห้ง ขจัดคราบได้โดย ใช้สเปรย์ฉีดผมฉีดตรงรอยนั้น ทิ้งไว้ให้แห้ง แล้วใช้น้ำส้มสายชูผสมน้ำอย่างละเท่ากันเช็ดให้แห้งแล้วนำไปซัก
♥♥ เสื้อผ้าที่เลอะหมึกจีน ขจัดคราบได้โดย ให้ฝนหัวผักกาดขาวห่อด้วยผ้ากอซ ถูจนรอยเปื้อนจาง แล้วซักตามปกติ
♥♥ เสื้อผ้าที่เลอะสีน้ำมัน ขจัดคราบโดยใช้น้ำมันเบนซินเช็ดรอยเปื้อนให้ชุ่ม แล้วใช้น้ำมันสนเช็ดอีกที จากนั้นซักตามปกติ
♥♥ เสื้อผ้าที่เลอะสีเคลือบเงา ขจัดคราบโดยซับที่รอยเปื้อนด้วยน้ำมันสน หรือผสมแอมโมเนีย กับน้ำมันสนในอัตราส่วนที่เท่ากัน แช่ผ้าไว้จนกระทั่งรอยเปื้อน ละลายออก จากนั้นซักในน้ำสบู่
♥♥ เสื้อผ้าที่เลอะสีปากกาเมจิก ให้ถูด้วยน้ำมันสน แล้วนำไปซัก
♥♥ เสื้อผ้าที่เลอะคราบปากกาลูกลื่น ขจัดคราบโดยใช้ฟองน้ำชุบแอลกอฮอล์เช็ดจนรอยเลอะจางลง แล้วจึงนำไปซัก
♥♥ เสื้อผ้าที่เลอะคราบดินสอ ใช้ยาสีฟันป้ายลงบนรอยดินสอแล้วขยี้
♥♥ เสื้อผ้าที่เลอะลิปสติก เอามันเปลวหมูทาตรงรอยเปื้อน หรือใช้น้ำมันหมูทา แล้วจึงซักในน้ำสบู่ร้อนๆ หรือใช้ผงซักฟอกขาว โรยตรงรอยเปื้อนแล้วขยี้ แล้วจึงซักตามปกติ / ใช้วาสลินถูตรงรอยเปื้อนแล้วนำมาซักตามปกติ / นำมาแช้ไว้ในน้ำผสมเกลือทิ้งไว้ 1 คืน จะทำให้รอยลิปสติกหาย
♥♥ เสื้อผ้าที่เลอะยางหญ้า ยางดอกไม้ ขจัดคราบโดยนำมาซักในน้ำสบู่ที่ข้นและร้อน ถ้ายังไม่ออกให้ใช้สารฟอกขาวช่วย
………………………………….. ขอบคุณข้อมูลดีๆจาก Google.com …………………………………..
ก็ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไรถ้าอ่านเคล็ดลับต่างๆเหล่านี้แล้วจะทำให้รู้สึกเหนื่อยใจที่จะซักผ้าเปื้อน หรือเพราะสภาวะอากาศที่เปลี่ยนไปเดี๋ยวร้อน เดี๋ยวชื้นเดี๋ยวฝนตก ที่ทำให้งานซักผ้าที่ง่ายแสนง่ายกลับกลายเป็นเรื่องซับซ้อนและเบื่อหน่ายไป
อีกทั้งด้วยยุคสมัยที่เปลี่ยนไป ความต้องการของผู้บริโภคที่มากขึ้นเสื้อผ้าและกระเป๋าดีไซเนอร์หลายๆแบรนด์ปรับเปลี่ยนดีไซน์ วัสดุ เนื้อผ้าและการตัดเย็บเพื่อดึงดูดผู้บริโภค ทำให้การดูแลทำความสะอาดก็ยุ่งยากและซับซ้อนขึ้นตามลำดับ รวมถึงข้าวของเครื่องใช้อื่นๆอีกมากมายที่การทำความสะอาดเองที่บ้านด้วยน้ำยาทั่วไปอาจไม่เพียงพออีกต่อไป เมื่อนั้นเองที่ ‘ผู้เชี่ยวชาญ’ ด้านการดูแลทำความสะอาดผ้าและเครื่องหนังเริ่มจะมีบทบาทเพิ่มมากขึ้น
>>สิ่งที่ต้องการการดูแลเป็นพิเศษจากผู้เชี่ยวชาญ อาทิ
- ชุดราตรีที่ตัดเย็บด้วยวัสดุหลายประเภท เช่น ชีฟอง ผสมขนนก หนังสัตว์
- ชุดสูทขนสัตว์
- ชุดแต่งงาน ราตรี ประดับเลื่อม อัดพลีท
- กระเป๋าผ้า กระเป๋าผ้าผสมหนัง
- เครื่องหนังต่างๆ เช่น กระเป๋า รองเท้า
- เครื่องนอนผสมไหม
- ผลิตภัณฑ์จากขนสัตว์ต่างๆ พรมขนสัตว์ ผ้าพันคอขนสัตว์ เสื้อขนเป็ด
- เสื้อโค๊ท แจ๊คเกตกันหนาว
- พรม
- ผ้าม่าน
- เสื้อผ้าที่ตัดเย็บขึ้นมาจากวัสดุแตกต่างกันหลายชนิด เช่นชุดราตรีชีฟองแปะขนนกและหนังเสือดาว ปักเลื่อม
- ผ้าเปื้อนที่ไม่สามารถขจัดคราบแบบธรรมดาได้
อย่าลืมนึกถึง คลีนดี CLEANDEE เวลามีปัญหาเรื่องผ้า..เราขอเป็นอีกหนึ่งทางเลือกให้แก่คุณลูกค้าค่ะ…
เคล็ดลับทำความสะอาดเบื้องต้น
เคล็ดลับน่ารู้เบื้องต้น สำหรับพ่อบ้าน-แม่บ้านที่ทำงานหนักๆ มาจากนอกบ้าน
ต้องเจอกับปัญหาต่างๆ เกี่ยวกับการทำความสะอาด ลองดูวิธีการทำความสะอาดแบบง่ายๆ ด้วยสิ่งของรอบกายภายในบ้าน
♥♥ การทำความสะอาดเครื่องใช้ไฟฟ้า
เครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้านที่มีคราบสกปรกติดแน่นสามารถเช็ดถูออกได้โดยง่าย ด้วยการใช้ยาสีฟันเช็ดถูให้ทั่ว จนคราบสกปรกหลุดออก แล้วจึงใช้ผ้าแห้งเช็ดอีกที
♥♥ แก้ท่อตัน
อ่างล้างจานตามบ้าน มักมีปัญหาเศษอาหารหรือไขมันเกาะรอบท่อ และหากปล่อย
ทิ้งไว้นานๆอาจทำให้ท่อตันได้ วิธีแก้ไขคือ ให้คุณนำเกลือแกงใส่ลงไปในท่อสัก 2-3 ช้อน จากนั้นให้นำเบคกิ้งโซดาหรือผงฟู ต้มน้ำให้เดือดเทตามลงไป ไขมันที่อุดตันอยู่ก็จะหมดไป
♥♥ ขจัดคราบสนิมบนซิงค์ล้างจาน
ซิงค์ล้างจานที่ทำด้วยอลูมิเนียม เวลาใช้ไปนานๆหยดน้ำจะกัดเซาะ
ทำให้เกิดสนิม วิธีแก้ไขง่ายๆ คือ ให้ใช้เกลือป่นขัดซิงค์ล้างจานที่เป็นสนิม คราบสนิมเหล่านั้นจะหลุดออกอย่างง่ายดาย
♥♥ แก้รอยด่างบนโต๊ะ
โต๊ะหรือหลังตู้ที่ทาด้วยชแล็กหากโดนน้ำหรือความร้อนจะทำให้เกิดรอยด่าง
ไม่สวยงาม วิธีแก้ไข โดยใช้ผ้าชุบแอลกอฮอล์วางบนรอยด่างดำ 2-3 นาที แล้วเช็ดออก รอยด่างบนโต๊ะจะหายไป
♥♥ คราบกาแฟสลาย
คุณที่ชื่นชอบการดื่มกาแฟไม่ว่าจะเป็นที่บ้านหรือที่ทำงาน มักจะมีแก้วกาแฟประจำตัว อาจมีปัญหาคราบกาแฟติดแน่น ดูไม่สะอาด วิธีล้างแก้วให้สะอาดเหมือนใหม่ ทำได้โดยใช้เกลือประมาณ 1 ช้อนโต๊ะ ละลายกับน้ำอุ่น 1 ถ้วยกาแฟ แล้วใช้ผ้าสะอาดจุ่มน้ำเกลือ เช็ดทำความสะอาดตามคราบกาแฟที่ติดอยู่ในแก้ว คราบสีคล้ำจะหมดไปในพริบตา
♥♥ ดับกลิ่นเหม็นในห้องน้ำ
ใช้ห้องน้ำไปนานๆ ไม่ว่าบ้านไหนๆ ก็จะต้องมีกลิ่นน่ารังเกียจโชยออกมาจากชักโครก ให้คุณละลายเกลือเม็ดใหญ่ในน้ำ 2-3 ลิตรจนน้ำเค็มจัด จากนั้นนำไปราดที่โถส้วม ทิ้งไว้สักครู่หนึ่งกลิ่นที่น่ารังเกียจก็จะหายไป
♥♥ เช็ดถูพื้นที่มีคราบมัน
ห้องครัวที่เราใช้ประกอบอาหารกันอยู่บ่อยๆ คงเจอะเจอปัญหาที่มีคราบมันติดเหนียว และล้างทำความสะอาดยาก วิธีทำความสะอาดให้ใช้ผ้าถูพื้นชุบน้ำแล้วบีบพอหมาด จากนั้นเทน้ำส้มสายชูลงบนผ้าถูกพื้น แล้วนำไปเช็ดถูดตามที่ต่างๆ คราบมันและคราบสกปรกจะหลุดออกอย่างง่ายดายหรือวิธีที่ง่ายที่สุดคือ สเปรย์น้ำยาขจัดคราบไขมัน ลงพื้นที่ที่จะทำความสะอาด ทิ้งไว้2-3นาที จากนั้นจึงใช้ผ้าลูบออก(คราบมันฝังแน่นจะหลุดออกอย่างง่ายดาย)
♥♥ ดับกลิ่นขยะ
คุณสามารถลดกลิ่นขยะที่อยู่ในถังขยะทั้งภายในและภายนอกบ้านได้ โดยใช้กระดาษหนังสือพิมพ์เก่าๆ รองไว้ใต้ถังขยะหรือถุงดำก่อนจะทิ้งขยะลงไป กระดาษหนังสือพิมพ์จะช่วยดูดซับกลิ่นขยะไว้ได้มากทีเดียว เมื่อเปิดฝาทิ้งขยะครั้งต่อไป กลิ่นต่างๆก็จะไม่มารบกวนให้รำคาญใจได้อีก
ที่มา : เคล็ดลับน่ารู้การทำความสะอาดเบื้องต้น จากเวบ โอวาทเมด